ketchupp:)

Archive for April 2007

สวัสดี….ความรัก

ผมได้รู้จักความรักอีกรูปแบบเมื่อไม่นานมานี้
มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผมไม่ได้นึกถึงมัน
มันเป็นความรักแบบที่ผมไม่ค่อยคุ้นเคยเท่าไหร่
เป็นความรักที่ใช้เวลาในการฟูมฟักเพียงแค่ไม่กี่วัน

ผมได้รู้จักความรักชนิดนี้ มันทำให้ผมรู้ว่า
การที่เราอยู่คนเดียวมันไม่ได้ดีเสมอไป
เมื่อเราเจอใครสักคนที่ไม่ได้ผูกพันกับเรา
ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่สามารถเข้าใจเราได้ดี
รู้ว่าเราต้องการอะไร และเข้าใจซึ่งกันและกัน
มันทำให้ผมไม่อยากที่จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอีกต่อไป
เมื่อผมได้พบเธอ

ความรักที่ผมได้จากเธอ..เธอคนนั้นที่ทำให้ผม
ได้รู้จักความรักที่เรากำลังพูดถึงอยู่
เธอไม่ใช่คนที่สวยมาก ไม่ได้ผิวขาว ไม่ได้ผมยาว
ออกจะดูเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ(ผมหมายถึงนิสัยน่ะ)
แต่ผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้ผมเลือกที่จะค้นหาความรัก
จากเธอที่ไม่ได้เลิศเลอ ไม่ได้สวยงาม แต่ผมรู้สึกว่าผมรักเธอเข้าแล้ว

เรื่องที่ผมเล่ามามันอาจไม่มีอะไร
มันอาจเป็นแค่การบ่นของคนๆหนึ่ง
แต่เรื่องที่เขียนมานั้นมันเกิดจากความรัก
ของคนเขียนที่เขียนออกมาจากหัวใจ
ที่ใช้เรียบเรียงเรื่องราวต่างๆให้ออกมา
ถ้าคุณได้รู้จักกับความรักแบบที่ว่านี้
มันอาจจะทำให้การดำเนินอยู่บนโลก
ของคุณมีความหมายมากขึ้นก็ได้

ช่วงนี้กำลังอยู่ในภาวะอิ่มตัว
ไม่มีอะไรจะมาเขียนให้ได้อ่านกันเลย
ถ้าผมหยุดไปหลายวันอย่างงี้ก็ไม่ต้องสงสัย
ว่าหายไปไหน คงยังตามหาแรงบันดาลใจอยู่

วันนี้ก็เลยมาคุยกันเล่นๆไปก่อน
ช่วงนี้ก็ใกล้เทศกาลสงกรานแล้วน่ะ
อยากรู้ว่า เพื่อนๆ พี่ๆ ลุงๆ ป้าๆ น้าๆ อาๆ
ไปเล่นน้ำที่ไหนกัน ช่วยแนะนำกันหน่อย
เพราะยังไม่รู้เลยว่าจะไปเล่นน้ำที่ไหนดี
หรือว่าใครมีกิจกรรมเจ๋งๆ ทำในช่วงสงกราน
ก็เข้ มาบอกมาแปะมาโม้มาฝอยเอาไว้ได้

ช่วงนี้ถ้าจะเดินทางไปไหนไกลก็ระวังตัวด้วยน่ะ
รักษาร่างกายดีๆน่ะทุกคน แล้วหลังสงกราน
เจอกานใหม่น่ะ สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน

ครั้งแรกที่ผมเห็นหนังสือเล่มนี้
ผมไม่รู้สึกว่ามันมีอะไรน่าสนใจ ไม่หน้าอ่าน
แต่เพราะอะไรไม่รู้ที่ทำให้ผมอยากรู้ว่า
มันมีดีอะไร เค้าถึงเอามาตีพิมพ์ขายได้
ผมจึงตัดสินใจลองซื้อดูเพราะเห็นว่า
มันก็ไม่ได้มีราคาแพงมากนัก

หน้าปกหนังสือเขียนไว้ว่า
[วงศ์ทนงคุยชั่วโมงครึ่งกับยุทธเลิศ]
ผมซื้อมาทั้งๆที่ไม่รู้จัก ‘ยุทธเลิศ’
เลยด้วยซ้ำ ไม่รู้แม้กระทั้งเขาทำอะไร
ฮา ฮา มันก็คงเป็นความตลกอีกอย่างนึง

ผมใช้เวลาอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่กี่ชั่วโมง
แต่หลังจากที่อ่านจบก็พบว่าเงินที่ผม
ใช้ซื้อหนังสือเล่มนี้เพียงแค่ 60 บาท
แต่หนังสือเล่มนี้กลับมอบสิ่งมีค่า
มากกว่าเงินเพียงเล็กน้อยนี้หลายเท่านัก

“อัจฉริยะไม่มีในโลก มันมีแต่ผู้บ้าที่ทุ่มเทแบบสุดตีน!”
ประโยคนี้หลุดออกมาจากปากของ ‘ยุทธเลิศ’
มันไม่ได้เป็นประโยคที่มีคำสวยงาม สุภาพ แต่มันมี
ความหมายที่กระแทกจิตใจอย่างมากมาย
ผมชอบมากๆประโยคนี้

ที่ผมมาเขียนเล่าให้ทุกคนฟังเพราะผมอยากให้
ทุกคนได้อ่านหนังสือดีๆ และได้รับสิ่งที่ดีๆ

สำหรับคนที่เคยอ่านแล้ว
พวกคุณคิดเหมือนผมรึเปล่าว่าหนังสือเล่มนี้ดีจริงๆ
สำหรับคนที่ยังไม่เคยอ่าน
ผมแนะนำให้หามาอ่าน แล้วคุณจะรู้ว่าการเดิน
ไปให้ถึงจุกหมายที่ตั้งใจไว้มันไม่ได้อยากอย่างที่คิด
ถ้าเราเพียงมีความอดทด และรักในสิ่งที่เราทำ

ไปงานหนังสือมาแล้วคับ
คนเยอะแยะมากมายเหมือนทุกปี
แต่มีอย่างหนึ่งที่ต่างออกไปจากทุกปีน่ะ
ก็คือทุกๆปีจะมีนักอ่าน นักเขียนหน้าใหม่
มาหาหนังสืออ่านมาโชว์ผลงานของตัวเอง
ฮา ฮา นั่นแหละคือสิ่งที่ดี ที่จะได้ปลูกฝัง
ลงบนจิตใจของเรา

ไปงานหนังสือทุกปีก็แทบจะหมดตัวไปตามๆกัน
เด๋วนี้ราคาหนังสือแพงพอสมควร
แต่มันก็คุ้มค่าน่ะที่จะได้อ่านหนังสือดีๆ
ที่นักเขียนบรรจงสร้างสรรค์มันขึ้นมา

มีเรื่องนึกน่ะลองสังเกตดู
จะมีคนมาคอยประกาศว่า ระวังของหาย
หรือระวังกระเป๋าเงินให้ดี และทุกครั้งที่
ประกาศอาการของคนที่ได้ยินคือจะคำหา
กระเป๋าเงินดดยเร็วเพื่อให้แน่ใจว่ายังอยู่ดี
ฮา ฮา ก็เป็นอะไรที่ตลกๆดี

ใครที่ไปงานหนังสือมาแล้วเจออะไรดีๆ
ก็มาเล่าให้ฟังบ้างเน้อ